สุขภาพดี ของพนักงาน คือ กุญแจสู่ความสำเร็จในการทำงานในอนาคต จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพนักงานของคุณมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะทําให้สุขภาพดีขึ้น และการสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพดีเป็นส่วนสําคัญในทุกๆวันทํางานของพวกเขา และสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงการมีส่วนร่วมของพนักงานได้อย่างไร มันสามารถทําอะไรได้บ้างสําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานขององค์กรรวมไปถึงความสามารถขององค์กรในการดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถไว้กับองค์กร เพื่อให้พนักงานของคุณประสบความสําเร็จและมีสุขภาพดี

ถึงเวลาที่องค์กรต้องหาวิธีที่เข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน แทนที่จะเป็นมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาที่มีอยู่ของพนักงานในองค์กร ในบทความนี้เราจะพูดถึงองค์กรสามารถสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพดีและมีความเป็นอยู่ที่ดีแบบเชิงรุกที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตวิถีใหม่ของทุกวันในการทำงาน

ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในวันนี้

สถานที่ทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลและการก้าวไปสู่การทำงานจากระยะไกล Remote work และแบบผสมผสาน Hybrid office  วิธีที่องค์กรดำเนินการในแต่ละวันนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเมื่อทศวรรษที่แล้ว แนวโน้มที่มีอยู่เหล่านี้ถูกเร่งขึ้นโดยความจำเป็นจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และแน่นอนว่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้นำความท้าทายใหม่ๆ มาสู่องค์กร ตามดัชนีสุขภาพจิตของ LifeWorks The Mental Health Index™  และกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าความเครียดทางจิตใจของพนักงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าพนักงานมีความรู้สึกโดดเดี่ยวและวิตกกังวลอันเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานที่เปลี่ยนไปจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19  ซึ่งส่งผลเสียต่อความพึงพอใจในงานและประสิทธิภาพการทำงาน

องค์กรยังประสบกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญในหมู่พนักงาน ดัชนีสุขภาพจิตเปิดเผยว่า ปัจจุบันคนหนุ่มสาวให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้น โดยบุคคลที่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี มีแนวโน้มเกือบสองเท่าที่จะบอกว่าต้องการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตเป็นอันดับแรกเมื่อเทียบกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งแปลว่าพนักงานโดยครึ่งหนึ่งของคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) หรือ เจเนอเรชันวาย (Generation Y ย่อว่า Gen Y) และ 75% ของคนรุ่นใหม่ (Gen-Z) อ้างเหตุผลด้านสุขภาพจิตเป็นแรงจูงใจในการออกจากงาน

ในปัจจุบัน มีความต้องการทรัพยากรดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อพัฒนาสุขภาพดีและสุขภาวะที่ดีเข้าถึงพนักงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าพนักงานของคุณจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่อื่นๆ ในโลก พวกเขาต้องการการสนับสนุนด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่ได้ผลเท่าเทียมกัน นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่หวังจะรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงและหลีกเลี่ยงการลาออกของพนักงาน

ความสำเร็จหมายถึงการเชื่อมโยงความเป็นอยู่ที่ดีและผลผลิต

ในการส่งเสริมให้พนักงานปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทํางานจําเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการและจัดหากระบวนการรวมถึงแนวทางในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงานนั่นหมายถึงการเปลี่ยนวิธีที่องค์กรของคุณสามารถเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานได้ในทุกระดับ

การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงานด้วยการออกแบบและปรับปรุงสำนักงาน ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญในการส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทํางานรวมถึงสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ความเป็นอยู่ที่ดีและการทำงานที่ยืดหยุ่น ดังนั้นหลายองค์กรและหลายหน่วยงานให้ความสำคัญในเรื่องนี้กับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานด้วยการออกแบบและจัดวางผังพื้นที่ของสำนักงานอย่างเหมาะสมเพื่อรองรับการทำงานแบบผสมผสาน Hybrid work เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานที่สำนักงานและการทำงานจากที่บ้านได้มากที่สุด

เคล็ดลับในการปรับปรุงสำนักงาน เพื่อให้พนักงานที่มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานเพื่อความสบายทางร่างกาย จัดหาเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่เหมาะกับการทำงานให้กับพนักงาน เช่น โต๊ะแบบยืน เก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ และจอมอนิเตอร์แบบ pivotal (ความสามารถของจอภาพที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์สูง สามารถปรับเอียง หมุน หมุน และปรับความสูงให้เหมาะสมกับการรับชมที่สะดวกสบาย)
  • การระบายอากาศ แสงสว่าง และอุณหภูมิ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่มีแสงสว่าง การระบายอากาศ และการควบคุมอุณหภูมิที่ดีสามารถช่วยให้แน่ใจได้ว่าพนักงานมีความสะดวกสบายและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • จัดให้มีพื้นที่สำนักงานสำหรับกิจกรรมทางกาย การกระตุ้นให้พนักงานเคลื่อนไหวร่างกายผ่านความคิดริเริ่มต่างๆ เช่น โรงยิมในสถานที่หรือห้องออกกำลังกาย สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพร่างกายและลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ ได้
  • การออกแบบตามหลักการยศาสตร์ การออกแบบสำนักงานโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกและปัญหาสุขภาพร่างกายอื่นๆ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เช่น โต๊ะและเก้าอี้ปรับระดับได้ และการวางตำแหน่งจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เหมาะสม
  • รวมแสงธรรมชาติเข้ากับการออกแบบสำนักงานของคุณ การผสมผสานแสงธรรมชาติเข้ากับการออกแบบระบบแสงสว่างในสำนักงานสามารถช่วยให้พนักงานมีความรู้สึกที่ดีขึ้นและลดความเมื่อยล้าได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้หน้าต่างหรือช่องรับแสง รวมถึงการจัดวางแสงประดิษฐ์อย่างมีกลยุทธ์ในการออกแบบ ตัวอย่างเช่น แนวทางการออกแบบระบบแสงสว่างห้องประชุม ในรูปแบบประหยัดพลังงาน เป็นต้น
  • ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ การรวบรวมคุณสมบัติและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ เช่น โต๊ะยืน ห้องออกกำลังกาย และห้องทำสมาธิ เพื่อส่งเสริมนิสัยที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน
  • เพิ่มพื้นที่สีเขียว การเพิ่มต้นไม้และพื้นที่สีเขียวอื่นๆ ในสำนักงานสามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศและสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและสนุกสนานมากขึ้น
  • จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน การจัดหาพื้นที่สำหรับพนักงานในการทำงานร่วมกันและมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันสามารถส่งเสริมความรู้สึกที่ดีของหน่วยงานและปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม
  • ส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน การกระตุ้นให้พนักงานรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ดี ผ่านความคิดริเริ่ม เช่น ตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นและตัวเลือกการทำงานจากภายนอกสำนักงาน แบบ WFH หรือ Remote Work สามารถช่วยลดความเครียดและปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมได้

สุขภาพดี และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานไม่ได้เป็นเพียงโบนัสเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จขององค์กรที่มากขึ้น เช่นเดียวกับการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงาน ความเป็นอยู่ที่ดีควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกวันทำงาน

และนี่คือ เคล็ดลับในการสร้างพนักงานให้มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ในการทำงานแบบ New Normal หากคุณต้องการให้ทีมของเราช่วยสร้างสำนักงานใหม่หรือปรับปรุงพื้นที่ที่มีอยู่ เพื่อให้พนักงาน สุขภาพดี และมีความสุขในที่ทำงาน โทรหาเราที่ 087-709-2255, 083-988-2574 หรืออีเมล info@avl.co.th