New Normal Smart Office แนวโน้มการออกแบบสำนักงานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นแนวโน้มของ ออฟฟิศยุคใหม่ ในปี 2022 นี้ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าสถานที่ทำงานและวิธีการทำงานของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของ covid-19 และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ มีอิทธิพลต่อแนวโน้มเกือบทั้งหมดในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการทำงาน ในสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
แล้วออฟฟิศในปี 2022 มีอะไรในสถานที่ทำงานบ้าง?
Smart Office สำนักงานอัจฉริยะมาถึงแล้ว
การถือกำเนิดของการทำงานแบบไฮบริดได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะภายในสถานที่ทำงานที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถ จองพื้นที่ทำงานหรือห้องประชุม ระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศและระดับแสงธรรมชาติร่วมกับการใช้พื้นที่ต่างๆภายในสำนักงานเพื่อปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เราเชื่อว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และด้วยการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี “ดิจิทัลทวิน” เพื่อเพิ่มระดับของข้อมูลที่องค์กรสามารถควบคุมได้เพื่อปรับปรุงสถานที่ทำงานและยอมรับการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้เพิ่มมากขึ้น
งานศิลป์กับงานตกแต่งภายในที่ทำงาน
การรวมงานศิลปะเป็นคุณลักษณะในพื้นที่ที่โดดเด่นจะเพิ่มข้อความสำคัญของแบรนด์ ศิลปะบนผนังหรือกราฟิกสื่อถึงแบรนด์กับพนักงานและผู้เยี่ยมชม งานศิลปะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าการตกแต่ง สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ในหลายกรณี และยังสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานได้
การบูรณาการการทำงานแบบผสมผสานกับสถานที่ทำงานจริง
โดยส่วนใหญ่ สถานที่ทำงานแบบดั้งเดิมได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับพนักงานส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำงานในออฟฟิศในเวลาใดก็ได้ โครงสร้างดังกล่าวมีการพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่การแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสได้เร่งกระแสนี้ให้เร็วขึ้น โดยที่ปัจจุบันหลายองค์กรยอมรับแนวทางปฏิบัติแบบไฮบริดเป็นบรรทัดฐาน และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการปรับปรุงสำนักงานให้รองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการคำนึงความปลอดภัยของพนักงานทุกคน
การออกแบบสำนักงานในรูปแบบของการทำงานแบบผสมผสาน ได้ให้ความสำคัญของสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น และเน้นที่การออกแบบสถานที่ทำงานเพื่อทำหน้าที่เป็นจุดยึดทางสังคมในการทำงานที่ตอบสนองการทำงานแบบ Activity-Based Working (ABW) ที่เน้นการจัดสภาวะแวดล้อมที่ทำงานให้อิงกับกิจกรรมภายในองค์กร ทั้งการทำงานและสันทนาการ ทำให้พนักงานรู้จักและมีปฏิสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นในการทำงาน เพิ่มความสามัคคีภายในองค์กรโดยพื้นที่ที่ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของพนักงานในสำนักงานต้องออกแบบและการจัดวางพื้นที่ให้เหมาะสมและปลอดภัย การจัดพื้นที่สำนักงานรูปแบบใหม่ Hot Desk เป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ ที่หลายองค์กรเริ่มนำมาปรับใช้ ร่วมกับเทรนด์อื่นๆอย่าง Remote Work และ ABW (Activity-Based Working) ผ่านการปรับสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้คนในอนาคต เพื่อทำให้องค์กรพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
การจัดวางพื้นที่ทำงานที่หลากหลายให้กับพนักงาน (Integrating Hybrid Working and the Physical Workplace)
การออกแบบสถานที่ทำงานที่มีความเหมาะกับสไตล์การทำงานของพนักงานและประเภทของงานถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญ นอกเหนือจากการปรับรูปแบบการทำงานแล้ว การปรับปรุงในเชิงกายภาพภายในสำนักงาน ที่คำนึงถึง การมีสมาธิ การทำงานร่วมกัน และความเป็นอยู่ที่ดี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่ทำงานนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานในนั้น
สมาธิ Concentrate โต๊ะทำงานอาจเป็นพื้นที่ที่บุคคลสามารถมีสมาธิได้ แต่ในบางครั้ง อาจเป็นเรื่องยากที่จะจดจ่ออยู่กับการทำงานโดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง ทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการสร้างพื้นที่สมาธิโดยเฉพาะ ที่ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีสิ่งรบกวนสมาธิ
ร่วมมือ Collaborate ห้องประชุมเป็นสถานที่สำหรับการทำงานร่วมกันมานานแล้ว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สำนักงานยุคใหม่หลายแห่งได้รวมเอาพื้นที่การทำงานและการประชุมร่วมกันโดยเฉพาะ ที่ไม่เน้นงานตกแต่งแต่เน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น กระดานไวท์บอร์ดแบบโต้ตอบ (Interactive Whiteboard ) หรือออกแบบให้มีผนังที่เขียนได้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้
เชื่อมต่อ Connect เนื่องจาก Hybrid Working กลายเป็นเรื่องปกติ พนักงานที่ทำงานในสำนักงานจึงต้องการพื้นที่มากขึ้น ซึ่งพวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ภายนอกผ่านวิดีโอแชทหรือการโทรแบบกลุ่ม แทนที่จะให้แต่ละคนใช้ห้องประชุมเต็มรูปแบบ พ็อดขนาดเล็ก หรือ Phone Both กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับบุคคลในการเชื่อมต่อ และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องมีความสะดวกและง่ายในการใช้งาน สามารถต่อเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แล็ปท็อป เพื่อเข้าร่วม/เริ่มการโทรได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
เติมพลัง Recharge สถานที่ทำงานไม่ควรเป็นเพียงแค่ที่ทำงานเท่านั้น เนื่องจากพนักงานต้องการเวลาพัก เวลาในการพบปะสังสรรค์และเติมพลัง และในขณะที่โรงอาหารหรือพื้นที่แยกเป็นส่วนๆ ของสภาพแวดล้อมในสำนักงานแบบเดิมๆ ได้ถูกพัฒนาไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อทำให้เกิดพื้นที่ที่พนักงานโดยรวมมีส่วนร่วม เช่น มุมกาแฟที่รวบรวมกาแฟคุณภาพระดับบาริสต้าไว้บริการพนักงาน รวมไปจนถึง อุปกรณ์เกมส์ต่างๆ เช่น พินบอล พูล ฟุตบอลโต๊ะ และแม้แต่บูธคาราโอเกะ อย่างไรก็ตาม สำนักงานหลายแห่งกำลังก้าวไปอีกขั้น และรวมถึงห้องเติมพลังหรือพื้นที่เฉพาะที่พนักงานสามารถงีบหลับ นั่งสมาธิ เล่นโยคะ หรือเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายใน
สถานที่ทำงานอย่างยั่งยืน The Sustainable Workplace
ความยั่งยืนมีความสำคัญเพิ่มขึ้น และปี 2565 จะเห็นการเน้นย้ำมากขึ้นในการสร้างสถานที่ทำงานที่ยั่งยืน ในขณะที่การรับรองเฉพาะทางดูเหมือนว่า BREEAM และ LEED จะพิจารณาจากความยั่งยืนโดยรวมและประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอาคารสำนักงาน รวมทั้งมาตรฐานใหม่ เช่น WELL Building Standard ที่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยในอาคาร และการผสมผสานการรับรองและมาตรฐานที่แตกต่างกันเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสถานที่ทำงานที่ยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตทีดีอย่างแท้จริง
มีหลายพื้นที่ที่การออกแบบสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนได้ เช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์รีไซเคิล การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลในงานตกแต่งภายใน รวมถึงการมุ่งเน้นที่การปรับใช้แสงจากธรรมชาติให้เหมาะสมเพื่อลดการใช้พลังงาน ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อาคารและพื้นที่เพื่อปรับปรุงให้เกิดความยั่งยืนและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
ข้อพิจารณาด้านการออกแบบอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อความยั่งยืน ได้แก่ การจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยปั่นจักรยานไปทำงาน เช่น ห้องอาบน้ำและ Locker เก็บของใช้ นโยบายที่ไม่ต้องใช้กระดาษ และ/หรือแนะนำถ้วยกาแฟแบบใช้ซ้ำได้สำหรับพนักงาน ปัจจุบันหลายๆหน่วยงานตระหนักถึงภาวะโลกร้อน และตั้งใจปรับปรุงสำนักงานและรูปแบบการทำงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสถานที่ทำงานจึงเป็นส่วนสำคัญของวาระแห่งความยั่งยืน
Biophilic Office Space พื้นที่สำนักงานชีวภาพ
Biophilic Office Design เทรนด์การออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงชีวิตประจำวันของมนุษย์เข้ากับองค์ประกอบทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์ ด้วยการนำเอาองค์ประกอบหรือวัสดุธรรมชาติมาใช้ในงานออกแบบสำนักงาน อาทิเช่น การนำเอาพืชพรรณธรรมชาติ หรือต้นไม้ต่างๆ มาตกแต่งในพื้นที่การทำงาน เช่น การสร้าง ซุ้ม หรืองานออกแบบเพดานที่เต็มไปด้วยพืชพรรณไม้ทางธรรมชาติ หรือผนังที่ถูกออกแบบให้เป็นสวนแนวตั้ง (Green wall) เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความชุ่มชื่น เขียวชะอุ่ม รวมถึงการสร้างบรรยากาศในการทำงานท่ามกลางธรรมชาติ ผ่านประสาทสัมผัสอื่นๆ เช่น การสัมผัสพื้นผิวของวัสดุตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติ, กลิ่นจากการใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ รวมถึงเสียงที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีเลียนเสียงแบบธรรมชาติ รวมไปจนถึงการรับรู้ทางสายตา จากการเคลื่อนไหวของใบไม้ และเงาจากต้นไม้ ซึ่งจะทำให้ระดับความเครียดลดลง การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น และลดความเครียดทางจิตใจและทางสรีรวิทยา
ไม่ใช่แค่การตกแต่งภายในของสำนักงานพื้นที่สีเขียวที่กำลังเป็นที่นิยม สำนักงานบางแห่งกำลังใช้พื้นที่กลางแจ้งและหลังคาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างเช่น สร้างสวนบนดาดฟ้าเพื่อการผักผ่อนหรือใช้ปลูกผัก พนักงานสามารถหยุดพักจากชีวิตที่วุ่นวายเพื่อเชื่อมต่อกับธรรมชาติ นอกจากประโยชน์สำหรับพนักงานที่ชอบสัมผัสธรรมชาติแล้ว ยังจัดให้เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ที่ให้ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติยังนำมาซึ่งแรงบันดาลใจและแนวคิดใหม่ๆได้อีกด้วย
และนี่คือทั้งหมดสำหรับ แนวโน้มการออกแบบสำนักงานยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ในการทำงานแบบ New Normal
หากคุณต้องการให้ทีมของเราช่วยสร้างสำนักงานใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจหรือปรับปรุงพื้นที่ที่มีอยู่ให้เป็น Smart office โทรหาเราที่ 087-709-2255, 083-988-2574 หรืออีเมล info@avl.co.th