Agile Workplace  สำนักงานรูปแบบใหม่ ที่มีความยืดหยุ่นในการทํางานที่เน้นการทํางานร่วมกันทั้งนวัตกรรมและความสามารถในการปรับตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรวบรวมทรัพยากรต่างๆ รวมถึงผู้คน กระบวนการ การเชื่อมต่อ และเทคโนโลยี เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การออกแบบ สํานักงาน แบบเก่า คือ การสร้างพื้นที่ทํางานที่เท่าเทียมกันและเหมือนกัน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานต้องนั่งทำงานตามที่ออกแบบพื้นที่ไว้ ซึงอาจไม่เหมาะสมกับพวกเขา ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid-19 ทำให้เกิดวิถีชีวิตใหม่ในการทำงาน เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบของการปฏิบัติงานและรูปแบบของสำนักงาน ทำให้เราต้องก้าวเข้าสู่การจัดการสํานัก งานรูปแบบใหม่ ที่รวบรวมความแตกต่างของสำนักงานและรูปแบบการทํางานที่แตกต่างกันเอาเข้าไว้ด้วยกัน

การทำงานแบบ Agile Working เป็นแนวทางในการทำงานที่ให้อิสระและความยืดหยุ่นแก่พนักงานในการทำงานในสำนักงาน ตั้งแต่พื้นที่ทำงานส่วนตัว และพื้นที่ทำงานร่วมกัน รวมไปถึงโซนพักผ่อน พนักงานสามารถเลือกสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับงานเฉพาะของตนเองได้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นการตอบสนองต่อลักษณะงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพนักงานต้องการอิสระ ทางเลือก และความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงานมากขึ้น โดยเน้นที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผล การทํางานที่คล่องตัว (Agile working) ได้เกิดจากพัฒนาการของรูปแบบ “สำนักงาน” ของแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป ตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

สำนักงานแบบเปิดโล่ง (Open Plan Offices)

ในช่วงปี 1980-1990 สำนักงาน แบบเปิดโล่งจะได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นวิธีการเพิ่มพื้นที่โต๊ะทำงานและประหยัดพื้นที่ของสำนักงาน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบอาคาร (เช่น แสงสว่าง และระบบปรับอากาศในอาคาร) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรื้อผนังและพาร์ติชันที่กั้นระหว่างพื้นที่ทำงานออกเพื่อสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันที่เปิดกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานแบบเปิดโล่งก็มีข้อด้อยและปัญหาที่ติดตามมาก็คือ มีการส่งเสียงดัง และ เสียงรบกวน ทำให้เสียสมาธิในการทำงานและไม่มีพื้นที่ส่วนตัวหรือความเป็นส่วนตัวเพียงพอสำหรับพนักงาน

โต๊ะทำงานส่วนกลาง (Hot Desking)

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 โต๊ะทำงานส่วนกลาง Hot Desk ได้รับการแนะนำเพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดต้นทุน โดยเน้นให้พนักงานใช้พื้นที่ส่วนกลางของสำนักงานมากขึ้น ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง หรือโต๊ะประจำ แต่ให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางในการทำงาน เพื่อเพิ่มอิสระของพนักงาน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เช่นกันว่า พนักงานอาจไม่สะดวก เพราะไม่มีโต๊ะทำงานเป็นของตัวเอง ต้องเก็บข้าวของและเดินไปมาตลอดเวลา

การทำงานแบบ Agile Working

ในช่วงปลายทศวรรษ 2000 และต้นปี 2010 ที่การทำงานแบบ Agile จะได้รับความนิยมในฐานะวิธีที่ช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่น มีความคล่องตัว พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานได้ตลอดเวลา เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายด้วยทีมงานที่เหมาะสม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการจัดสถานที่ทำงานต่างๆ ให้กับพนักงาน เช่น โต๊ะทำงาน พื้นที่พักผ่อน และโซนเงียบสงบเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและความชอบของแต่ละบุคล

การทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Working)

จากการทำงานแบบคล่องตัว (Agile Working) ภายในสำนักงาน และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่การทำงานแบบผสมผสาน hybrid working ซึ่งรวมเอาองค์ประกอบต่างๆ ของรูปแบบข้างต้นทั้งหมดเข้าด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ การให้พนักงานทำงานทั้งจากที่บ้าน และจากที่สำนักงาน หรือที่ใดก็ได้ (indeed anywhere) โดยเน้นที่ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว โดยได้รับการอำนวยความสะดวกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น การประชุมทางวิดีโอและการประมวลผลแบบคลาวด์ การเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วขึ้น เช่น ไฟเบอร์ความเร็วสูง (e.g. full fibre) ซึ่งทำให้การทำงานจากระยะไกลเป็นไปได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการทำงานแบบผสมผสานคือช่วยให้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายในสำนักงานได้มากขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย

วิวัฒนาการของ สำนักงาน นี้ได้เปลี่ยนจากความต้องการที่จะเพิ่ม “การใช้ประโยชน์พื้นที่” ในอาคาร (สำนักงานเป็นศูนย์กลาง) ไปสู่ ​​“ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน” ในอาคาร (ที่มีพนักงานเป็นศูนย์กลาง)  การสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งตอบสนองความต้องการของทั้งพนักงานและนายจ้าง ( กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากการเน้นที่วิธีการใช้ประโยชน์จากอาคารให้ดีที่สุดไปจนถึงวิธีใช้ประโยชน์จากผู้คนให้ดีที่สุด) แม้ว่ารูปแบบเหล่านี้จะมีข้อดีและข้อเสีย แต่การย้ายไปสู่การทำงานแบบผสมผสานมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นบรรทัดฐานใหม่สำหรับอนาคตอันใกล้ เนื่องจากองค์กรพยายามที่จะสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์ของการทำงานจากระยะไกลกับประโยชน์ของการทำงานร่วมกันและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ เห็นภาพรวมของวิธีการทํางานที่คล่องตัว ( Agile Working )รวมถึงรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Working) และภาพรวมกว้าง ๆ ของการออกแบบสำนักงาน ทีส่งผลต่อการทำงานสําหรับสถานที่ทํางานที่คล่องตัว ( Agile Workplaces )

ทําไมการทํางานที่คล่องตัวจึงมีความสําคัญในสำนักงาน ?

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราประสบกับผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลก (โควิด-19 สงครามยูเครน และวิกฤตค่าครองชีพ) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีมากขึ้นในทศวรรษที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มความต้องการแนวทางที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ถ้าองค์กรมีความคล่องตัวในการทำงานมากเท่าไหร่ องค์กรก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นในการเผชิญกับความท้าทายในอนาคต กล่าวโดยย่อคือ การทำงานที่คล่องตัวมุ่งเน้นไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้มากขึ้นซึ่งสามารถสนับสนุนพนักงานได้ดีขึ้น รงมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมและทำให้องค์กรอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และนี่คือเหตุผลสำคัญบางประการที่ทำให้การทำงานแบบคล่องตัว (Agile Working) จึงมีความสำคัญ

การปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลง

ในโลกที่วุ่นวาย คุณต้องการที่จะมีความยืดหยุ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำงานแบบ Agile เป็นแนวทางการทำงานที่เน้นความยืดหยุ่น การทำงานร่วมกัน และความสามารถในการปรับตัว ช่วยให้บุคคลและทีมสามรถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไป และโอกาสที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำงานแบบ Agile ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นสำหรับธุรกิจและองค์กรที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันและมีความเกี่ยวข้อง ด้วยการทำงานที่คล่องตัว ทีมสามารถปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด ความต้องการของลูกค้า และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ได้รวดเร็วกว่าองค์กรแบบดั้งเดิมที่มีลำดับชั้น ซึ่งมักจะต้องผ่านระบบราชการเป็นชั้น ๆ เพื่อตัดสินใจ

ปรับปรุงสมดุลระหว่างชีวิตและการทํางาน

ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของการทํางานที่คล่องตัว คือสามารถช่วยให้พนักงานมีความสมดุลระหว่างชีวิตและการทํางานที่ดีขึ้น ด้วยการให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของเวลาและสถานที่ทํางาน พนักงานสามารถจัดการภาระผูกพันส่วนตัวและอาชีพได้ดีขึ้น นําไปสู่พนักงานที่มีความสุขและมีส่วนร่วมมากขึ้น (ดูบทความของเราเกี่ยวกับ เคล็ดลับในการสร้างพนักงานให้มี สุขภาพดี และมีความสุขมากขึ้น)

ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

การออกแบบหรือปรับปรุงสำนักงานให้เกิดการทำงานที่คล่องตัว ( Agile Workplaces ) ยังสามารถนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตได้อีกด้วย การอนุญาตให้พนักงานทำงานในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการและความชอบของแต่ละคน ทำให้พวกเขาสามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น

ความพึงพอใจของพนักงานมากขึ้น

เมื่อพนักงานรู้สึกมีอำนาจในการทำงานในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา พวกเขามีแนวโน้มที่จะพอใจกับงานของพวกเขา ในทางกลับกัน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การลาออกของพนักงานที่ลดลง และนำไปสู่การรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงได้ดีขึ้น

การทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น

แนวทางปฏิบัติในการทำงานแบบ Agile สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันได้มากขึ้น ด้วยการให้โอกาสพนักงานในการโต้ตอบและทำงานร่วมกันมากขึ้น บริษัทสามารถส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและนวัตกรรมที่มากขึ้น นั่นเป็นเรื่องสำคัญเพราะสามารถนำไปสู่พนักงานที่มีส่วนร่วม มีผลงาน และพึงพอใจมากขึ้น ด้วยการยอมรับแนวทางใหม่นี้ในการทำงาน ทั้งนี้บริษัทยังสามารถสร้างวัฒนธรรมแห่งความยืดหยุ่น การทำงานร่วมกัน และนวัตกรรมที่สามารถขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาวได้

การรักษาบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ

การทำงานแบบ Agile สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังในการดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงในองค์กรได้ ความสามารถในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมจะทำลายความจำเจของการทำงานบนโต๊ะทำงานแบบเดิมๆได้ ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การจัดหาพื้นที่ทำงานที่หลากหลายที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น มุมทำงานร่วมกัน พื้นที่พักผ่อน และห้องที่เงียบสงบ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมและสามารถดึงดูดใจคนที่มีความทะเยอทะยานและมีความคิดที่สดใสที่กำลังมองหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่าตื่นเต้นและสร้างแรงกระตุ้นได้ และที่น่าตื่นเต้นยิ่งไปกว่านั้นการออกแบหรือปรับปรุงสำนักงานให้เป็นพื้นที่ทำงานที่คล่องตัว (Agile Workplace) สามารถช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรในเชิงบวก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ด้วยการจัดหาพื้นที่ทำงานที่มากกว่าโต๊ะทำงานและพื้นที่คอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแสดงให้พนักงานเห็นว่าองค์กรให้ความสําคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทํางานที่ดี

ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

รูปแบบการทำงานที่คล่องตัวมีผลกระทบอย่างมากต่อนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในที่ทำงาน การจัดหาพื้นที่ทำงานที่หลากหลายให้กับพนักงานมีแนวโน้มที่จะได้รับการกระตุ้นและแรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมรอบตัวของพนักงาน การทำงานที่คล่องตัวยังสามารถส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างบุคคลและทีม เมื่อพนักงานทำงานในพื้นที่ต่างๆ ตลอดทั้งวัน พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่พวกเขาอาจไม่เคยพบเจอมาก่อน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองซึ่งสามารถจุดประกายวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และสร้างสรรค์

นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร การยอมรับการทำงานที่คล่องตัวทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมคุณสมบัติเหล่านี้ ซึ่งนำไปสู่แนวคิด ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ที่สามารถนำหน้าคู่แข่งได้

ประหยัดค่าใช้จ่าย

การทำงานแบบ Agile working ยังสามารถเป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างเช่น หาก 60% ของพื้นที่สำนักงานถูกแย่งไปโดยโต๊ะทำงานที่ไม่ได้ใช้งาน และเรานำแนวทางการทำงานที่คล่องตัวมาใช้อาจช่วยลดขนาดลงเหลือ 40% ในขณะที่เติมเต็มพื้นที่ที่เหลือด้วยพื้นที่ที่สร้างแรงผลักดันและทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกัน พื้นที่เหล่านี้อาจรวมถึงพื้นที่พักผ่อน มุมสังสรรค์ ห้องครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร มุมทำงานร่วมกัน และห้องเงียบสงบ ซึ่งแต่ละส่วนจะปรับให้ตรงกับความต้องการเฉพาะ การนำแนวทางนี้ไปปรับปรุงสำนักงาน สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ด้วยการใช้เทคโนโลยีติดตามการใช้พื้นที่ของสำนกงานและห้องประชุม  และใช้ทรัพยากรที่ประหยัดพลังงาน เช่น ระบบเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวที่จะเปิด – ปิดไฟแสงสว่างโดยอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน เป็นต้น การคิดเกี่ยวกับการออกแบบสำนักงานในลักษณะนี้สามารถช่วยให้องค์กรลดต้นทุนในขณะที่ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (WELL Building Standard®) ด้วยการลดความจำเป็นในการใช้พื้นที่สำนักงานจริงและอนุญาตให้พนักงานทำงานจากระยะไกล บริษัทต่างๆ สามารถลดต้นทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และปรับปรุงผลกำไรได้

 วิธีสร้าง Agile Workplace ในสำนักงาน

การสร้างสำนักงานที่คล่องตัวเป็นกระบวนการที่ต้องพัฒนาอยู่เสมอแบบไม่หยุดนิ่งซึ่งต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบพื้นที่ทำงานที่หลากหลาย ปรับเปลี่ยนได้ และส่งเสริมความยืดหยุ่นในขณะที่ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญบางประการที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการออกแบบสำนักงานที่คล่องตัว

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมายขององค์กร

ก่อนเริ่มโครงการปรับปรุงสำนักงานที่คล่องตัว( Agile Workplaces ) จำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายขององค์กร ว่ากำลังพยายามทำอะไรให้สำเร็จด้วยการออกแบบสำนักงานใหม่ องค์กรต้องการเพิ่มการทำงานร่วมกัน ผลผลิต หรือประสิทธิภาพหรือไม่? การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้สร้างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและทำให้แน่ใจว่าการออกแบบสำนักงานที่คล่องตัว( Agile Workplaces ) ตรงตามความต้องการเฉพาะขององค์กร

ขั้นตอนที่ 2: ทำความเข้าใจพื้นที่ขององค์กร

ในการสร้างสำนักงานที่คล่องตัว ( Agile Workplaces ) จำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานของคุณ เช่น การประเมินรูปแบบสำนักงานปัจจุบัน การระบุพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน และพิจารณาว่าพื้นที่ใดที่จะได้รับประโยชน์จากการออกแบบใหม่หรือการปรับใช้ใหม่ การเลือกใช้บริษัทออกแบบที่เหมาะสมสามารถช่วยประเมินพื้นที่ทำงานปัจจุบันได้ โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของบริษัทเพื่อระบุพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานและแนะนำตัวเลือกการออกแบบใหม่หรือการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบสำนักงานของคุณเหมาะสมที่สุดสำหรับประสิทธิภาพและการทำงาน

ขั้นตอนที่ 3: วางแผนออกแบบ Layout Plan

เมื่อมีความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่ขององค์กรดีแล้ว ก็ถึงเวลาวางแผนการจัดวางผังพื้นที่ของสำนักงาน (Layout Plan) และการสร้างภาพจำลอง 3 มิติ โดยบริษัทออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญที่สามารถช่วยวางแผนเค้าโครงสำนักงานเพื่อส่งเสริมความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และการทำงานร่วมกัน ตลอดจนแนะนำกลยุทธ์การออกแบบและวิธีแก้ปัญหา เพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจขององค์กร

ขั้นตอนที่ 4: รวมเทคโนโลยีเข้ากับงานออกแบบ

เพื่อส่งเสริมความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการทำงานในสำนักงาน มาช่วยรองรับการทำงานด้วย การเตรียมเทคโนโลยีควรเริ่มต้นทั้งแต่การปรับรูปแบบการทำงาน เช่น การใช้แอพลิเคชัน Slack ในการสื่อสารการประชุมผ่านระบบ Video Conference การติดตามภาระงานผ่านโปรแกรม Asana หรือการนำคอนเซ็ปต์ Work on Cloud มาปรับใช้ เช่น การรวบรวมงานผ่าน Google Cloud หรือ Dropbox  รวมถึงการใช้ระบบบริหารพื้นที่ทำงาน (Workplace Management System) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานที่จะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ สามารถจองโต๊ะทำงานหรือห้องประชุมแบบ Phone booth ล่วงหน้าได้ เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 5: มุ่งเน้นไปที่ความสบายและสุขภาพที่ดี

การออกแบบสำนักงานที่คล่องตัวควรคำนึงถึงความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีของพนักงานก่อน ด้วยการเลือใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รวมไปจนถึงการใช้แสงธรรมชาติ และต้นไม้เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพและสะดวกสบายของพนักงาน

ขั้นตอนที่ 6: การประเมินความพึงพอใจ

สุดท้ายนี้ จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทดสอบและปรับปรุงวิธีการทำงานในสํานักงานที่คล่องตัวอย่างต่อเนื่อง – ปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเมื่อจําเป็น ตรวจสอบความคิดเห็นของพนักงาน ประเมินระดับประสิทธิภาพการทํางาน และปรับเปลี่ยนตามความจําเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบปรับปรุงสำนักงานตรงตามเป้าหมายองค์กร

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Agile Workplace ในสำนักงาน

 ถาม: สำนักงานแบบ Agile คืออะไร?

สำนักงานที่คล่องตัวคือ สำนักงานที่มีพื้นที่ทำงานที่รองรับแนวทางการทำงานที่คล่องตัว ซึ่งอาจรวมถึงพื้นที่ทำงานส่วนตัวที่ยืดหยุ่นและพื้นที่ทำงานร่วมกัน รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา

ถาม: ทำไมสำนักงานที่คล่องตัวจึงมีความสำคัญ

การจัดสำนักงานที่คล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญเพราะสามารถนำไปสู่พนักงานที่มีส่วนร่วมมากขึ้น มีประสิทธิผล และมีความพึงพอใจมากขึ้น การสร้างพื้นที่ทำงานที่สนับสนุนแนวทางการทำงานแบบ Agile ทำให้บริษัทสามารถส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ความยืดหยุ่น และสร้างนวัตกรรมได้มากขึ้น

ถาม: องค์กรจะมีส่วนร่วมกับพนักงานในกระบวนการออกแบบและปรับปรุงสำนักงานได้อย่างไร

การมีส่วนร่วมของพนักงานในกระบวนการปรับปรุงสำนักงานสามารถช่วยให้แน่ใจว่าการออกแบบพื้นที่ทำงานตรงตามความต้องการและความชอบของพวกเขา ซึ่งอาจรวมถึงการขอความคิดเห็นเกี่ยวกับความชอบในการทำงาน การให้โอกาสในการปรับแต่ง และสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม

ถาม: องค์กรจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสำนักงานมีความยืดหยุ่น

เพื่อให้แน่ใจว่าสำนักงานของคุณมีความยืดหยุ่น คุณสามารถออกแบบพื้นที่เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจรวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ พื้นที่ทำงานแบบแยกส่วน และพื้นที่การประชุมที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับขนาดและวัตถุประสงค์ของกลุ่มต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ถาม: องค์กรจะให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในสำนักงานได้อย่างไร

เพื่อจัดลำดับความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในสำนักงาน ด้วยการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสรีระ มีแสงธรรมชาติที่เพียงพอ และพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและพบปะสังสรรค์ ด้วยการสร้างพื้นที่ทำงานที่สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ซึ่งจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ลดการขาดงาน และเพิ่มความพึงพอใจในงานโดยรวม

และนี่คือทั้งหมดสำหรับ Agile Working สำนักงานรูปแบบใหม่ ที่มีความยืดหยุ่น เหมาะกับสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในสำนักงาน ซึ่งจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มประสิทธิผลให้กับองค์กรได้

หากคุณต้องการให้ทีมของเรา AVL Design ช่วยออกแบบหรือปรับปรุงพื้นที่สำนักงานที่มีอยู่ให้เป็น Agile Workplace สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ โทรหาเราที่ 087-709-2255, 083-988-2574 หรืออีเมล info@avl.co.th 

ต้องการคำปรึกษาในการปรับปรุงห้องประชุมและสำนักงาน